การใช้ “......不说,......也/还......”
“......不说,......也/还......” 常用于口语,意思是“不仅.....,而且......”。
“......不说,......也/还......” มักใช้ในภาษาพูด หมายถึง “ไม่เพียงแต่........ทั้งยัง.........”
ตัวอย่างเช่น
1.老师讲课时,他不听不说,还跟朋友聊天。
ตอนที่ครูสอน ไม่เพียงแต่เขาไม่ฟัง ทั้งยังชวนเพื่อนคุยอีกด้วย
วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558
การใช้ “哪儿啊”
การใช้ “哪儿啊”
“哪儿啊” 表示否定,对对方的猜测和疑问进行
否定回答,相当于“不是,不对”。
“哪儿啊” (ใช่ที่ไหนล่ะ) แสดงถึงการปฏิเสธ มักใช้
ปฏิเสธฝ่ายตรงข้าม เมื่อฝ่ายตรงข้ามเดาหรือถามคำ
ถาม มีความหมายเหมือนกับคำว่า “ไม่ใช่”,“ไม่ถูก”
นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
1.A: 赵龙是韩国人是吧?
B: 哪儿啊,他是日本人。
A: จ้าวหลง เป็นคนเกาหลีใช่ไหม
B: ไม่ใช่(ใช่ที่ไหนล่ะ) เขาเป็นคนญี่ปุ่น
“哪儿啊” 表示否定,对对方的猜测和疑问进行
否定回答,相当于“不是,不对”。
“哪儿啊” (ใช่ที่ไหนล่ะ) แสดงถึงการปฏิเสธ มักใช้
ปฏิเสธฝ่ายตรงข้าม เมื่อฝ่ายตรงข้ามเดาหรือถามคำ
ถาม มีความหมายเหมือนกับคำว่า “ไม่ใช่”,“ไม่ถูก”
นั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
1.A: 赵龙是韩国人是吧?
B: 哪儿啊,他是日本人。
A: จ้าวหลง เป็นคนเกาหลีใช่ไหม
B: ไม่ใช่(ใช่ที่ไหนล่ะ) เขาเป็นคนญี่ปุ่น
การใช้ “时.....时.....”
การใช้ “时.....时.....”
“时.....时.....” ,固定格式,表示两种情况交替
发生。需要特别指出的是,“时”字后面一定是
两个意义相反的词。
“时.....时.....” หมายถึง บางครั้ง.....บางครั้ง..... เป็นรูปแบบที่คงที่แน่นอน แสดงถึงสถานการณ์สองสถานการณ์ที่สามารถแทนที่กันได้หรือสับเปลี่ยนกัน ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษก็คำที่อยู่หลัง “时”ทั้งสองคำ ต้องเป็นคำตรงกันข้ามกัน
ตัวอย่างเช่น
1.今天的天气时冷时热。
อากาศวันนี้บางครั้งก็หนาวบางครั้งก็ร้อน
2.电视的声音时大时小。
เสียงของโทรทัศน์บางครั้งก็ดังบางครั้งก็เบา
“时.....时.....” ,固定格式,表示两种情况交替
发生。需要特别指出的是,“时”字后面一定是
两个意义相反的词。
“时.....时.....” หมายถึง บางครั้ง.....บางครั้ง..... เป็นรูปแบบที่คงที่แน่นอน แสดงถึงสถานการณ์สองสถานการณ์ที่สามารถแทนที่กันได้หรือสับเปลี่ยนกัน ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษก็คำที่อยู่หลัง “时”ทั้งสองคำ ต้องเป็นคำตรงกันข้ามกัน
ตัวอย่างเช่น
1.今天的天气时冷时热。
อากาศวันนี้บางครั้งก็หนาวบางครั้งก็ร้อน
2.电视的声音时大时小。
เสียงของโทรทัศน์บางครั้งก็ดังบางครั้งก็เบา
การใช้ “十有八九”
การใช้ “十有八九”
“十有八九” ,意思是很可能,用来表示很有把
握的推测和判断。
“十有八九” หมายถึง น่าจะหรือเป็นไปได้ ใช้แสดงถึงการคาดเดาหรือการวิเคราะห์ที่มีความเป็นไปได้สูง
ตัวอย่างเช่น
1.你现在去找他,十有八九不在。
คุณไปหาเขาตอนนี้ น่าจะ/เป็นไปได้ที่จะไม่อยู่
2.我想十有八九他们俩已经分手了。
ฉันคิดว่าเป็นไปได้ที่พวกเราสองคนจะเลิกกันแล้ว
ฉันคิดว่าพวกเขาสองคนน่าจะเลิกกันแล้ว
“十有八九” ,意思是很可能,用来表示很有把
握的推测和判断。
“十有八九” หมายถึง น่าจะหรือเป็นไปได้ ใช้แสดงถึงการคาดเดาหรือการวิเคราะห์ที่มีความเป็นไปได้สูง
ตัวอย่างเช่น
1.你现在去找他,十有八九不在。
คุณไปหาเขาตอนนี้ น่าจะ/เป็นไปได้ที่จะไม่อยู่
2.我想十有八九他们俩已经分手了。
ฉันคิดว่าเป็นไปได้ที่พวกเราสองคนจะเลิกกันแล้ว
ฉันคิดว่าพวกเขาสองคนน่าจะเลิกกันแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558
การใช้ “一次” ,“一下”,“一番”
“一次”
表示次数 แสดงถึงจำนวนครั้ง
ตัวอย่างเช่น
1.我吃过一次北京烤鸭。
ฉันเคยกินเป็ดปักกิ่งครั้งหนึ่ง
2.我去过一次长城。
ฉันเคยไปกำแพงเมืองจีนครั้งหนึ่ง
“一下”
表示时间短 แสดงถึงระยะเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างเช่น
1.他听了一下,说听不懂。
เขาฟังแค่แปบเดียว บอกว่าฟังไม่รู้เรื่อง
2.她看了一下,说不好看。
เขาดูแค่แปบเดียว บอกว่าไม่น่าดู
“一番”
表示花费力气 แสดงถึงการสูญเสียพลังงานเยอะๆ
ตัวอย่างเช่น
1.对于这件事的问题,我们应该讨论一番。
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราต้องถกเถียงกันสักพัก
2.我们商量了一番,决定暑假去海边玩儿。
พวกเราปรึกษาหารือกันสักพัก ตัดสินใจว่าปิดเทอมซัมเมอร์จะไปเที่ยวทะเลกัน
หมายเหตุ
一番 มักจะใช้กับ คำว่า
思考一番
商量一番
讨论一番
找一番
表示次数 แสดงถึงจำนวนครั้ง
ตัวอย่างเช่น
1.我吃过一次北京烤鸭。
ฉันเคยกินเป็ดปักกิ่งครั้งหนึ่ง
2.我去过一次长城。
ฉันเคยไปกำแพงเมืองจีนครั้งหนึ่ง
“一下”
表示时间短 แสดงถึงระยะเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างเช่น
1.他听了一下,说听不懂。
เขาฟังแค่แปบเดียว บอกว่าฟังไม่รู้เรื่อง
2.她看了一下,说不好看。
เขาดูแค่แปบเดียว บอกว่าไม่น่าดู
“一番”
表示花费力气 แสดงถึงการสูญเสียพลังงานเยอะๆ
ตัวอย่างเช่น
1.对于这件事的问题,我们应该讨论一番。
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราต้องถกเถียงกันสักพัก
2.我们商量了一番,决定暑假去海边玩儿。
พวกเราปรึกษาหารือกันสักพัก ตัดสินใจว่าปิดเทอมซัมเมอร์จะไปเที่ยวทะเลกัน
หมายเหตุ
一番 มักจะใช้กับ คำว่า
思考一番
商量一番
讨论一番
找一番
การใช้ “适合”
“适合” เหมาะสม
“适合” 是动词,可以作状语,不可以作
定语,“适合” 后面一定有宾语或者其他词语。
“适合” เป็นคำกริยา สามารถทำหน้าเป็นคำขยาย
กริยาได้ ขยายนามไม่ได้ หลังคำว่า “适合” ต้องมี
กรรมหรือวลีอื่นๆตามหลังเสมอ
ตัวอย่างเช่น
1.这部电影很适合外国留学生看。
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสมกับนักศึกษาต่างชาติที่จะดูมาก
2.这条裤子很适合他。
กางเกงตัวนี้เหมาะสมกับเขามาก
“适合” 是动词,可以作状语,不可以作
定语,“适合” 后面一定有宾语或者其他词语。
“适合” เป็นคำกริยา สามารถทำหน้าเป็นคำขยาย
กริยาได้ ขยายนามไม่ได้ หลังคำว่า “适合” ต้องมี
กรรมหรือวลีอื่นๆตามหลังเสมอ
ตัวอย่างเช่น
1.这部电影很适合外国留学生看。
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสมกับนักศึกษาต่างชาติที่จะดูมาก
2.这条裤子很适合他。
กางเกงตัวนี้เหมาะสมกับเขามาก
การใช้ “合适”
“合适” เหมาะสม
“合适” 是形容词,可以作定语。不可以作
状语。“合适”前面可以带程度副词,比如:
真、很、太、非常。
“合适” เป็นคำคุณศัพท์ สามารถทำหน้าที่เป็นคำ
ขยายนามได้ ขยายกริยาไม่ได้ หน้าคำว่า “合适”
สามารถ มีคำวิเศษณ์บอกระดับได้ด้วย เช่น 真、很、
太、非常。
ตัวอย่างเช่น
1.这么晚去他家找他,不太合适吧。
ดึกแล้วไปหาเขาที่บ้าน ไม่เหมาะสมมั้ง
2.你穿粉红色的衣服真合适。
คุณใส่เสื่อสีชมพูเหมาะสมจริงๆ
หมายเหตุ
合适的工作 合适 ขยายนาม คำว่า 工作
合适的衣服 合适 ขยายนาม คำว่า 衣服
“合适” 是形容词,可以作定语。不可以作
状语。“合适”前面可以带程度副词,比如:
真、很、太、非常。
“合适” เป็นคำคุณศัพท์ สามารถทำหน้าที่เป็นคำ
ขยายนามได้ ขยายกริยาไม่ได้ หน้าคำว่า “合适”
สามารถ มีคำวิเศษณ์บอกระดับได้ด้วย เช่น 真、很、
太、非常。
ตัวอย่างเช่น
1.这么晚去他家找他,不太合适吧。
ดึกแล้วไปหาเขาที่บ้าน ไม่เหมาะสมมั้ง
2.你穿粉红色的衣服真合适。
คุณใส่เสื่อสีชมพูเหมาะสมจริงๆ
หมายเหตุ
合适的工作 合适 ขยายนาม คำว่า 工作
合适的衣服 合适 ขยายนาม คำว่า 衣服
การใช้ “不对劲儿”
“不对劲儿” ไม่ปกติ
“不对劲儿” 意思是“不正常”,“有问题”。
“不对劲儿” หมายถึง ไม่ปกติ ผิดปกติ มีปัญหา
ตัวอย่างเช่น
1.今天老师有点不对劲,平时都喜欢开玩笑,今天怎么那么严肃呢。
วันนี้คุณครูดูผิดปกติ ปกติแล้วจะชอบพูดตลก วันนี้ทำไมดูเคร่งขรึมจัง
2.今天他有点不对劲儿,进教室都不跟谁打招呼。
วันนี้เขาดูผิดปกตินะ เข้าห้องเรียนมาไม่ทักทายใครเลย
“不对劲儿” 意思是“不正常”,“有问题”。
“不对劲儿” หมายถึง ไม่ปกติ ผิดปกติ มีปัญหา
ตัวอย่างเช่น
1.今天老师有点不对劲,平时都喜欢开玩笑,今天怎么那么严肃呢。
วันนี้คุณครูดูผิดปกติ ปกติแล้วจะชอบพูดตลก วันนี้ทำไมดูเคร่งขรึมจัง
2.今天他有点不对劲儿,进教室都不跟谁打招呼。
วันนี้เขาดูผิดปกตินะ เข้าห้องเรียนมาไม่ทักทายใครเลย
การใช้ “砸”
“砸” พัง
“砸” 表示失败,没有成功。单独使用或者跟在动词后面。
“砸” แสดงถึงการล้มเลว ไม่ประสบผลสำเร็จ คำนี้มักใช้โดดๆ หรือตามหลังคำกริยา
ตัวอย่างเช่น
1.这道菜我做砸了,因为太辣。
อาหารจานนี้ฉันทำพังละ เพราะว่ามันเผ็ดเกินไป
2.衣服已经叠好了,不要把它弄砸。
เสื้อผ้าพับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำมันพังนะ
วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558
การใช้ “除非......,才.......”
“除非......,才.......”
(นอกเสียจากว่า.........ถึงจะ.........)
“除非......,才.......” 表示只有在这种条件下才能产生某种结果。
“除非......,才.......” แสดงถึง ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น จึงเกิดผลลัพท์ตามมา
ตัวอย่างเช่น
1.除非你教我汉语,我才教你英语。
นอกเสียจากว่าเธอจะสอนภาษาจีนให้ฉัน ฉันถึงจะสอนภาษาอังกฤษให้เธอ
2.除非学生不认真听课,老师才骂。
นอกเสียจากว่านักเรียนไม่ตั้งใจเรียน คุณครูถึงจะด่า
(นอกเสียจากว่า.........ถึงจะ.........)
“除非......,才.......” 表示只有在这种条件下才能产生某种结果。
“除非......,才.......” แสดงถึง ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น จึงเกิดผลลัพท์ตามมา
ตัวอย่างเช่น
1.除非你教我汉语,我才教你英语。
นอกเสียจากว่าเธอจะสอนภาษาจีนให้ฉัน ฉันถึงจะสอนภาษาอังกฤษให้เธอ
2.除非学生不认真听课,老师才骂。
นอกเสียจากว่านักเรียนไม่ตั้งใจเรียน คุณครูถึงจะด่า
การใช้ “有两下子”
“有两下子” (เก่ง ยอดเยี่ยม)
“有两下子” 表示做什么事情很拿手,水平高。
“有两下子” แสดงถึงการทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทำได้ดี และยอดเยี่ยมนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
1.他的画画有两下子。
ภาพที่เขาวาดวาดได้ยอดเยี่ยมมาก
2.他游泳有两下子。
เขาว่ายน้ำได้ยอดเยี่ยมมาก
“有两下子” 表示做什么事情很拿手,水平高。
“有两下子” แสดงถึงการทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทำได้ดี และยอดเยี่ยมนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
1.他的画画有两下子。
ภาพที่เขาวาดวาดได้ยอดเยี่ยมมาก
2.他游泳有两下子。
เขาว่ายน้ำได้ยอดเยี่ยมมาก
การใช้ “一下子”
“一下子” (แปบเดียว ครู่เดียว)
“一下子” 表示一次动作或者很短的时间。
“一下子” แสดงถึงการกระทำหรือระยะเวลาอั้นสั้นๆ แปบเดียว
ตัวอย่างเช่น
1.今天的作业不多,我一下子就写好了。
วันนี้การบ้านไม่เยอะ แปบเดียวฉันก็เขียนเสร็จละ
2.老师教的生词,我一下子记住了。
คำศัพท์ที่คุณครูสอน แปบเดียวฉันก็จำได้ละ
“一下子” 表示一次动作或者很短的时间。
“一下子” แสดงถึงการกระทำหรือระยะเวลาอั้นสั้นๆ แปบเดียว
ตัวอย่างเช่น
1.今天的作业不多,我一下子就写好了。
วันนี้การบ้านไม่เยอะ แปบเดียวฉันก็เขียนเสร็จละ
2.老师教的生词,我一下子记住了。
คำศัพท์ที่คุณครูสอน แปบเดียวฉันก็จำได้ละ
การใช้ “对了”
“对了”(ใช่ละ)
“对了” 用在一个句子的开头,引起别人的注意,表示突然想起什么事情。
“对了” จะวางไว้ต้นประโยค เป็นการดึงความสนใจจากผู้อื่น แสดงถึงการนึกถึงเรื่องราวเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นอย่างกระทันหัน
ตัวอย่างเช่น
1.对了,我忘了交作业。
ใช่ละ ฉันลืมส่งการบ้าน
2.对了,那位老师姓什么?
ใช่ละ คุณครูท่านนั้นแซ่อะไรนะ
การใช้ “非........不可”
“非........不可” (ไม่.............ไม่ได้)
“非........不可” 的意思就是 “必须”、“一定”、“得........”
“非........不可” มีความหมายว่า จำเป็นต้อง แน่นอน ต้อง
ตัวอย่างเช่น
1.想要提高写作能力,非多写不可。
อยากจะพัฒนาความสามารถด้านการเขียนเรียงความ ไม่เขียนเยอะๆไม่ได้ (ต้องเขียนเยอะๆ)นั่นเอง
2.妈妈做的菜很好吃,非吃不可。
อาหารที่แม่ทำอร่อยมาก ไม่กินไม่ได้ (ต้องกินให้ได้)นั่นเอง
“非........不可” 的意思就是 “必须”、“一定”、“得........”
“非........不可” มีความหมายว่า จำเป็นต้อง แน่นอน ต้อง
ตัวอย่างเช่น
1.想要提高写作能力,非多写不可。
อยากจะพัฒนาความสามารถด้านการเขียนเรียงความ ไม่เขียนเยอะๆไม่ได้ (ต้องเขียนเยอะๆ)นั่นเอง
2.妈妈做的菜很好吃,非吃不可。
อาหารที่แม่ทำอร่อยมาก ไม่กินไม่ได้ (ต้องกินให้ได้)นั่นเอง
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)